ทั้งนี้ตามขั้นตอน หากจะปรับขึ้นค่าธรรมเนียม ต้องเสนอเรื่องให้ที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางพิจารณา ออกประกาศเพิ่มเติมเพื่อปรับเพิ่มค่าธรรมเนียม ซึ่งตามขั้นตอนกฎหมายจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จึงแล้วเสร็จ โดยเบื้องต้น ยอมรับว่ารถแท็กซี่แบบ 5 ประตูที่มีการจัดพื้นที่ไว้เผื่อการขนสัมภาระ จะมีต้นทุนค่าเชื้อเพลิงสูงกว่าแท็กซี่ 4 ประตูปกติ และมีการใช้น้ำมันมากขึ้นหากต้องบรรทุกของหนัก ดังนั้นจึงให้กรมการขนส่งทางบกไปดูว่ามีความจำเป็นที่จะต้องแบ่งประเภทรถ แท็กซี่และอัตราค่าธรรมเนียมออกเป็น 2 ประเภทหรือไม่"รมว.คมนาคมกล่าวสำหรับ หลักการพิจารณาเรื่องต้องตั้งอยู่บนหลักการว่า ต้องไม่เป็นการเอาเปรียบผู้โดยสารและไม่ทำให้ผู้ประกอบรถแท็กซี่ขาดทุน อย่างไรก็ตาม ถ้าจะเก็บค่าเซอร์ชาร์จเพิ่มก็ต้องครอบคลุมสนามบินดอนเมือง รวมถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารด้วยเพื่อให้เกิดมาตรฐานเดียวกัน
ความคืบหน้าล่าสุด เพจ “เสียงจากแท็กซี่-Voice of Taxis” ได้โพสต์ภาพและข้อความ ในเชิงตัดพ้อว่า ประเทศสากลทั่วโลก ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถแท็กซี่ สามารถนำกระเป๋าถือติดตัวได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าระวางใดๆ แต่กรณีมีสัมภาระชิ้นใหญ่หลายใบ ต่างประเทศจะคิดค่าบริการเพิ่ม เป็นค่าระวางสัมภาระ แต่ประเทศไทย เฉพาะผู้โดยสารที่เคยเดินทางทั่วโลก จึงจะยอมจ่ายเพิ่ม ไม่มีปัญหา แต่มีบางรายโวยวายไม่เข้าใจ คิดว่าแท็กซี่จะเอาเปรียบ เพราะความไม่รู้ว่า รถแท็กซี่จดทะเบียนเป็นรถรับจัางสาธารณะ ใช้บรรทุกคน ไม่ใช่รถบรรทุกของ ถ้าจะให้บรรทุกของ ก็ต้องมีน้ำใจให้กับแท็กซี่ ยอมจ่ายเพิ่มเป็นค่าระวางสัมภาระ
“แท็กซี่ไม่ได้เอาเปรียบผู้โดยสาร แต่การเปิดท้ายแล้วเอาเชือกผูก ตำรวจมีสิทธิ์จับได้ แต่ตำรวจก็อะลุ่มอล่วย ทำมองไม่เห็น ในเมื่อผู้โดยสารยอมจ่ายเพิ่ม แท็กซี่ก็อยากได้เพิ่ม ก็แฮปปี้กันไป กรณีรถแท็กซี่แวน สามารถบรรทุกของได้มากกว่าคันเล็ก 2-3 เท่า ถ้าเป็นรถแท็กซี่ปกติ ก็ต้องแบ่งไปสองคัน ต้องจ่ายค่ารถสองคัน รวมกันเป็นเท่าไหร่ละ แต่ถ้ายอมจ่ายเพิ่ม … จบครับ ใช้คันใหญ่เพียงคันเดียวไปหมด แล้วจะให้ค่าโดยสารเท่าราคามิเตอร์ปกติ ก็ย่อมไม่มีใครบรรทุกให้ครับ บางรายบอกว่า ในรถมีถังเเก๊สทำให้ใส่กระเป๋าได้น้อย ผมอยากบอกว่า ถ้าภายในรถไม่มีถังแก๊ส แสดงว่ารถคันนั้นเขาใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่น ถ้าใช้น้ำมันราคามิเตอร์ต้องแพงกว่านี้ครับ
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น