“กลุ่มสินค้าสำคัญที่จะได้รับผลกระทบจากการถูกตัดจีเอสพี จากการตรวจสอบพบว่า ส่วนใหญ่เป็นสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า ผักผลไม้ อาหารทะเลแปรรูป เนื้อสัตว์แปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยางพารา ยานยนต์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์ และเครื่องดื่ม เพราะเป็นสินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปยังตลาดอียู ซึ่งการถูกตัดจีเอสพีอาจทำให้คู่ค้าหันไปซื้อสินค้าจากคู่แข่งแทน”
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนรับมือการถูกสหภาพยุโรป (อียู) ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่ให้กับสินค้าไทยประมาณ 6,200 รายการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยจะผลักดันให้มีการเจรจาเปิดการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-อียู ซึ่งหากสำเร็จจะทำให้ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เทียบเท่าหรือดีกว่า และถาวรกว่าการได้จีเอสพี
ทั้งนี้ ในระยะเร่งด่วน กรมฯ จะเร่งหาคู่ค้าในตลาดใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยง เช่น อาเซียน เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน และอาหารแปรรูป ซึ่งเป็นสินค้าหลักๆ ที่ไทยส่งออกไปยังตลาดอียูมาก เพราะหากมีตลาดรองรับการส่งออกให้กับสินค้าเหล่านี้ ก็จะช่วยบรรเทาผลกระทบได้
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Source: พาณิชย์ลุยหาตลาดใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น