“ถือว่าภารกิจได้บรรลุเป้าหมายที่เป็นปัญหาในสังคมทำให้พุทธศาสนิกชนและ พุทธบริษัทเกิดความตื่นตัวมีส่วนร่วมในการออกมาปกป้องพิทักษ์พุทธศาสนาแล้ว นับว่าได้ผลเกินความคาดหมาย ถือว่า คณะกรรมการได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้วโดยจะเน้นไปที่การบังคับใช้กฎหมาย และการปรับปรุงกฎหมายให้มีความถูกต้องมากขึ้น ดังนั้นจึงถือว่า ปิดจ๊อบแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมามีแรงทักท้วงมากแม้ประธานสปช.เห็นว่าให้เดินต่อไป แต่คณะกรรมการชุดนี้ก็เห็นว่า เมื่อทำงานบรรลุเป้าหมายก็ไม่ควรเดินหน้าต่อเพราะผลประโยชน์ที่ได้รับจะน้อย กว่า และประธานสปช.อาจถูกต่อว่าได้” นายไพบูลย์ กล่าวเมื่อ ถามว่า คณะกรรมการชุดนนี้ยุติการศึกษาแล้วใช้หรือไม่นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว แต่ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการก็จะให้การสนับสนุนทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบต่อ ไปในรูปแบบเครือข่ายในฐานะกรรมาธิการ และสปช. ทำหน้าที่ในส่วนของฆราวาส ส่วนเรื่องสงฆ์ก็ให้สงฆ์ว่ากันไปโดยจะยังติดตามกรณียักยอกเงินสหกรณ์เงิน คลองจั่นยักย้ายไปให้วัดพระธรรมกาย และการกลั่นแกล้งพระภิกษุไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปกครองของสงฆ์.เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาสภา ปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงยุติบทบาทของคณะกรรมการฯ ว่า ตามที่ประธานสปช.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมาโดยให้มีหน้าที่วิเคราะห์ประเด็นปัญหาของพุทธศาสนา 4 ประการ 1. ศาสนสมบัติของวัดและของพระภิกษุสงฆ์ 2.ปัญหาของพระสงฆ์ที่ไม่ประพฤติปฏบัติตามพระธรรมวินัย 3.การทำให้พระวินัยวิปริต 4.เรื่องของฝ่ายอาณาจักรที่ต้องเข้าไปสนับสนุนปกป้องกิจการของฝ่ายศาสนาจักร ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการได้ประชุมแล้วถึง 5 ครั้ง มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญทางด้านศาสนา และศึกษาปัญหาตามหน้าที่เสร็จสิ้น ถือว่าได้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้านแล้วจึงได้ทำหนังสือสรุปรายผลการศึกษาถึงนาย เทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. ลงวันที่ 6 มี.ค. ได้รับทราบแล้ว
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Source: ไพบูลย์ปิดจ๊อบยอมยุบกก.พิทักษ์ฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น