วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

รพ.ตุรกีอ้างสิทธิพลเมืองให้การรักษาสมาชิกไอเอส

985174ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตุรกีถูกประณามจากกลุ่มพันธมิตรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) โดยเฉพาะสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) เรื่องการไม่ให้ความร่วมมือและขาดความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกับต่างชาติ เพื่อต่อต้านไอเอส และไม่พยายามดำเนินมาตรการที่ชัดเจน เพื่อป้องกันกลุ่มหัวรุนแรงเดินทางข้ามพรมแดนจากตุรกีไปยังอิรักและซีเรีย ซึ่งนายมาร์ก ปิเอรินี อดีตเอกอัครราชทูตอียูประจำตุรกีกล่าวว่า ทางการตุรกีดำเนินนโยบายไฟเขียวแก่กลุ่มก่อการร้าย โดยมีเที่ยวบินตรงจากเมืองอิสตันบูลไปยังเมืองกาซีอันเตปทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งถูกเรียกว่า "สายด่วนจีฮัด" นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเรเซพ เตย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ยังเคยให้การสนับสนุนไอเอสในการพยายามโค่นอำนาจนายบาร์ชา อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรียด้วย

หนังสือพิมพ์ตาราฟของตุรกี รายงานว่า หน่วยข่าวกรองตุรกีได้ออกคำเตือนเมื่อต้นเพือน ก.พ. ที่ผ่านมา ว่า กลุ่มไอเอสราว 3,000 คน ที่แฝงตัวเคลื่อนไหวในประเทศ มีแผนจะก่อเหตุโจมตีสถานเอกอัครราชทูตของกลุ่มประเทศพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐ ในกรุงอังการา ทั้งนี้ ดูเหมือนสาเหตุที่ทำให้ทางการตุรกีหวาดกลัวที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มชาว เคิร์ดในการต่อสู้กับไอเอสในโคบานี เป็นเพราะหวั่นว่ากองทัพเคิร์ดจะยกระดับเป้าหมายจนนำไปสู่การเรียกร้อง เอกราช ซึ่งปัจจุบันมีชุมชนชาวเคิร์ดในนามของเคอร์ดิสถานเกิดขึ้นในหลายประเทศ ทั้งอิรัก อิหร่าน ซีเรีย และตุรกีสำนักข่าวอินเตอร์เนชันแนล บิสเนส ไทม์ส เผยรายงานเกี่ยวกับ น.ส.เอสรา ยาการ์ นักศึกษาแพทย์ชาวตุรกีที่เดินทางไปยังเมืองโคบานีเพื่อให้ความช่วยเหลือด้าน การแพทย์ เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา และได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากการโจมตีของกลุ่มผู้ก่อการร้าย ปรากฏว่าเมื่อเธอเดินทางกลับมายังตุรกีเพื่อเข้ารับการรักษา กลับถูกส่งต่อจากโรงพยาบาลหนึ่งไปยังอีกโรงพยาบาลหนึ่ง จนส่งผลต่ออาการบาดเจ็บและทำให้เธอสูญเสียตาไปหนึ่งข้าง ในท้ายที่สุดเธอได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงอังการา ก่อนจะถูกตำรวจจับและตั้งข้อหาก่อการร้าย ซึ่งเธอเพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเนื่องจากปัญหาด้าน สุขภาพ แต่ก็มีกำหนดขึ้นศาลเพื่อฟังคำพิจารณาคดีในวันที่ 30 เม.ย. นี้ โดยนายเซห์มุส โกคัลพ์ หนึ่งในสมาชิกสภาสมาคมการแพทย์ตุรกี ประณามการจับกุมครั้งนี้ว่า เป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม และแสดงความผิดหวังอย่างยิ่ง ที่การให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์แก่ประชาชนในเมืองโคบานี ถูกตัดสินว่าเป็นอาชญากรรมในประเทศของตน

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า ทางการตุรกีให้การยืนยันข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วสื่อสังคมออนไลน์ก่อนหน้า นี้ว่า โรงพยาบาลเมืองเดนิซลี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ให้การรักษาแก่นายเอมราห์ คากัน หนึ่งในสมาชิกระดับสูงของกลุ่มก่อการร้ายไอเอส ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. เป็นต้นมา และการรักษาจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการเข้ารับบริการด้านสาธารณสุข ซึ่งนายคากันก็เป็นหนึ่งในพลเมืองตุรกีที่พึงได้รับสิทธินั้น ทั้งนี้ นายคากันเป็นหนึ่งในชาวตุรกีนับพันคน ที่เข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส โดยเขาสามารถไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูงในองค์กรได้ในเวลาอันรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทางการตุรกีอ้างเรื่องสิทธิพลเมืองและการไม่แบ่งแยก เพื่อเป็นเหตุผลในการให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ก่อการร้าย แต่กลับมีรายงานว่ากลุ่มนักรบชาวเคิร์ดที่สู้ศึกปกป้องเมืองโคบานีของซีเรีย ซึ่งอยู่ติดพรมแดนทางตอนใต้ของตุรกี มาตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีที่แล้ว กลับเป็นกลุ่มคนที่ถูกปฏิเสธจากหลักมนุษยธรรมในระบบสาธารณสุขของรัฐบาลตุรกี

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: รพ.ตุรกีอ้างสิทธิพลเมืองให้การรักษาสมาชิกไอเอส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น