นอกจากนี้นายกฯยังได้แจ้งให้ที่ประชุมครม.รับทราบว่า การลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยูกับสาธารณรัฐประชาชนจีน เกี่ยวกับการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงนั้น ได้ตกลงชัดเจนว่าจะร่วมลงนามกันในระหว่างการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศลุ่มแม่ น้ำโขง ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค.นี้ หลังจากที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสนช.ได้เห็นชอบในร่างเอ็มโอยู ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้หลังจากได้สอบถามรายละเอียดทั้งหมดจากผู้เกี่ยวข้องแล้วพบว่าใน ระดับนโยบายนั้นถือว่าได้ทำสมบูรณ์และทำเต็มกำลังแล้ว แต่การที่นโยบายไม่เดินหน้านั้นขึ้นอยู่กับผู้ปฎิบัติงานที่มีปัญหา นายกฯจึงกำชับให้ครม.ทุกคนไปดูว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ โดยระดับปฎิบัติมีปัญหาการทำงานหรือว่าเฉื่อยชากันแน่ ซึ่งต้องหาสาเหตุให้พบและแก้ปัญหาให้ตรงจุด
“นายกฯพูดในที่ประชุม ครม.โดยหยิบยกเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมาพูดคุย ในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจ่ายเงิน ค่าข้าว ค่ายางพารา หรือการให้สินเชื่อต่างๆ ว่าสาเหตุใดจึงดำเนินการได้ช้าและถูกวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาก จึงต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปหาสาเหตุให้พบว่าการที่ผู้ปฎิบัติงานทำได้ ช้านั้นเกิดจากสาเหตุใด หากผู้ปฎิบัติเฉื่อยชาก็ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้ได้เพื่อให้นโยบายเดิน หน้าให้ได้”พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้ทุกกระทรวง ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เร่งหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหากรณีที่ระดับปฏิบัติงาน ไม่สามารถเดินหน้าตามนโยบายได้ ทั้งในเรื่องของการจ่ายเงินให้กับชาวนา ชาวสวนยางพารา หรือการให้เงินกู้ประกอบอาชีพเสริม
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Source: ประยุทธ์ไล่จี้ข้าราชการเฉื่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น