ด้านนายโวลฟ์กัง ชอยเบลอ รมว.กระทรวงการคลังเยอรมนี ประเทศเสาหลักของเงินยูโรและเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกรีซ ยังคงยืนกรานเช่นเดิมว่า รัฐบาลเอเธนส์ต้องแสดงพัฒนาการ "อย่างมีนัยยะสำคัญ" นับจากนี้ และยังคงต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบดั้งเดิมอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วยการ ประชุมของยูโรกรุ๊ปเมื่อวันศุกร์ถือเป็นครั้งที่ 3 ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ เพื่อหาทางประนีประนอมในโครงการเงินกู้ของรัฐบาลกรีซ ที่ข้อตกลงฉบับเดิมมูลค่า 240,000 ล้านยูโร ( ราว 8.97 ล้านล้านบาท ) ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2553 กำลังจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ. นี้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เยอรมนีและกรีซแสดงออกอย่างเปิดเผยว่ามีจุดยืนคนละทาง สร้างความกังวลอย่างหนักให้กับทุกฝ่ายว่า หากต่อเวลาข้อตกลงไม่ทันเส้นตาย เงินคงคลังของรัฐบาลเอเธนส์จะหมดลงและทำให้ต้องออกจากการใช้เงินยูโรในที่ สุด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่านายเจอเริน ดิจส์เซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป หรือกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินยูโรเป็นสกุลหลัก 19 ประเทศ แถลงเมื่อวันศุกร์ เรื่องที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ ขยายระยะเวลาโครงการเงินช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลกรีซออกไปอีก 4 เดือน อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงจะได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการเมื่อใด ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของรัฐแผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลเอเธนส์ต้องนำเสนอต่อที่ประชุมของยูโรกรุ๊ปภายในวันจันทร์นี้
ขณะ ที่นายยานิส วารูฟาคิส รมว.กระทรวงการคลังกรีซ แถลงยืนยันรัฐบาลจะรับผิดชอบภาระหนี้สินของประเทศทั้งหมดต่อไป และจะแสดงเอกสารแผนงานทั้งหมดภายในวันจันทร์ตามกำหนด พร้อมกับแสดงความหวังด้วยว่า ระยะเวลาที่ได้รับเพิ่มมาอีก 4 เดือนนี้ จะสามารถช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเอเธนส์กับเจ้าหนี้กลุ่ม "ทรอยกา" ที่ประกอบด้วยสหภาพยุโรป ( อียู ) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) และธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) ได้
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น